เมนู

ตเทกฏฺเฐ จ อาสเว ความว่า ได้ละ คือตัดขาดซึ่งอาสวะทั้งหลาย ที่ตั้ง
อยู่ร่วมกันโดยเกิดพร้อมกับราคะและโทสะทั้งหลาย และที่ตั้งอยู่ในฐานเดียวกัน
กับการละซึ่งจะต้องทำลายด้วยอนาคามิมรรค.
บทว่า ภิกฺขุนี อุปสมฺปชฺช ความว่า เมื่ออายุครบแล้ว อุป-
สมบทเป็นภิกษุณี. บทว่า วิมลํ ได้แก่ มีมลทินไปปราศแล้ว เพราะหลุด
พ้นจากอุปกิเลสทั้งหลายมีอภิชฌาเป็นต้น. บทว่า สาธุ ได้แก่ อบรมแล้ว
โดยเคารพ คือโดยชอบนั่นแล. อีกอย่างหนึ่ง เชื่อมความว่า ชำระทิพยจักษุที่
สัตบุรุษทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นต้นอบรมแล้ว คือให้เกิดแล้ว.
บทว่า สงฺขาเร ได้แก่ สังขารที่เป็นไปในภูมิ 3. บทว่า ปรโต
ได้แก่ โดยเป็นอนัตตา. บทว่า เหตุชาเต ได้แก่ เกิดขึ้นเฉพาะหน้า.
บทว่า ปโลกิเต ความว่า เห็นสังขารทั้งหลายมีอันทรุดโทรมไป เป็นสภาพ
เปื่อยเน่า ด้วยปัญญาจักษุ. บทว่า ปหาสึ อาสเว สพฺเพ ความว่า
ข้าพเจ้าละอาสวะทั้งหมดที่ยังเหลือ คือทำให้สิ้นไป ด้วยอรหัตมรรค. คำที่
เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วแล.
จบ อรรถกถาสกุลาเถรีคาถา

8. โสณาเถรีคาถา


[446] พระโสณาเถรีกล่าวคาถาอุทานว่า
ข้าพเจ้าตลอดบุตร 10 คน ในเรือนร่างคือรูปนี้
เพราะเหตุนั้น จึงชราทุพพลภาพ เข้าไปหาภิกษุณี.

ภิกษุณีนั้น แสดงธรรมคือขันธ์อายตนะและธาตุ
ข้าพเจ้าฟังธรรมนั้นแล้ว ก็โกนผมบวช ข้าพเจ้านั้น
ศึกษาอยู่ ก็ชำระทิพยจักษุให้บริสุทธิ์ ข้าพเจ้ารู้ปุพเพ-
นิวาสญาณ รู้ขันธ์ที่อาศัยอยู่ในชาติก่อน และเจริญ
อนิมิตตสมาธิ มีจิตตั้งมั่นดี มีอารมณ์เดียว มีวิโมกข์
เกิดขึ้นในลำดับ ไม่ยึดมั่น ดับสนิท.
ปัญจขันธ์ ข้าพเจ้ากำหนดรู้แล้ว มีมูลรากอัน
ขาดแล้ว ดำรงอยู่ น่าตำหนิความชราที่น่าชัง บัดนี้
ไม่มีการเกิดอีก.

จบ โสณาเถรีคาถา

8. อรรถกถาโสณาเถรีคาถา


คาถาว่า ทส ปุตฺเต วิชายิตฺวา เป็นต้น เป็นคาถาของพระโสณา
เถรี.

พระเถรีแม้รูปนี้ ครั้งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ก็
บังเกิดในเรือนของครอบครัว กรุงหังสวดี รู้เดียงสาแล้ว วันหนึ่งฟังธรรมใน
สำนักพระศาสดา เห็นพระศาสดาทรงสถาปนาภิกษุณี ผู้ปรารภความเพียร ก็ทำ
กุศลให้ยิ่งยวดขึ้นไป แม้ตนเอง ก็ปรารถนาตำแหน่งนั้น ทำบุญจนตลอดชีวิต
จุติจากภพนั้นแล้ว เวียนว่ายไปในเทวดาและมนุษย์ถึงแสนกัป ในพุทธุปปาท-
กาลนี้ ก็บังเกิดในเรือนของครอบครัว กรุงสาวัตถี เติบโตเป็นสาวแล้ว
ก็ได้สามี มีบุตรธิดา 10 คน ใคร ๆ ก็รู้จักว่า ผู้มีบุตรมาก เมื่อสามีบวช นาง